วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พ่อของฉัน

“พ่อ”  เป็นคำที่ไม่มีคำบรรยายใดๆ   แต่มันมีความหมายต่อจิตใจของฉัน   ทุกครั้งที่เศร้า  เหงา  มีปัญหา  หลายคนอาจจะปรึกษาเพื่อน  ปรึกษาแม่  แต่สำหรับฉัน  ฉันปรึกษาพ่อ  พ่อเข้าใจฉันดีที่สุด  ทุกครั้งที่มีปัญหา  พ่อไม่ได้ให้ทางแก้ไข  แต่พ่อจะพูดให้คิด แล้วทำให้ฉันเห็นทางแก้ไขนั้น  พ่อบอกฉันเสมอว่า   น้ำต้องค่อยๆ เติม    ไม่ใช่เทลงไปไม่อย่างนั้นมันจะล้นได้  ก็เหมือนชีวิตเราที่ต้องค่อยๆเดินอย่างช้าๆ  เดินอย่างระมัดระวัง  ไม่เช่นนั้น  อาจจะล้มได้   ณ  วันนี้  ในชีวิตของฉันส่วนใหญ่นั้น มักจะผูกพันกับแม่เพราะแม่เลี้ยงดูฉันอย่างใกล้ชิด  ส่วนพ่อจะมีหน้าที่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูฉัน   การใกล้ชิดอบรมสั่งสอนส่วนใหญ่นั้นแม่จึงมีมากกว่า  พ่อทำงานหนักเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่สุขสบาย   ไม่ได้มีคำสอนจากปากของพ่อบ่อยนักเหมือนที่เคยผ่านมาแต่การกระทำของพ่อนั้น    เป็นสิ่งที่ดีกว่าคำสอนใดๆ  ความขยัน อดทน  เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่สุขสบายเป็นสิ่งที่แทนคำสอนทั้งหมดได้    พ่อประหยัดมัธยัสถ์กับความสุขส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ   ของใช้ส่วนตัวพ่อไม่เคยพิถีพิถัน   แต่พ่อจะดูแลสุขภาพของตัวเองอยู่สม่ำเสมอ  ตอนเช้าพ่อจะตื่นมาออกกำลังกาย  เพราะพ่อรู้ว่าสุขภาพของพ่อสำคัญต่อครอบครัว   หากพ่อไม่แข็งแรงก็จะไม่สามารถดูแลครอบครัวให้ดีได้  สิ่งต่างๆที่พ่อทำเป็นชีวิตประจำวัน  ไม่ได้เป็นผลงานยิ่งใหญ่   สร้างชื่อเสียง หรือเป็นที่รู้จัก    แต่ฉันก็ภูมิใจที่พ่อทำทุกอย่างด้วยความรัก  และพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า   ฉันเติบโตมาด้วยสองมือที่แม้จะหยาบกร้าน   และมอมแมมด้วยงานหนัก    แต่ก็สะอาดปราศจากมลทินของอบายมุขใดๆ    เพราะพ่อเลี้ยงดูฉันจนเติบโตมาได้ขนาดนี้    ต้องแลกกับหยาดเหงื่อแรงกายแรงใจ   ที่พ่อทุ่มเทด้วยความมานะซื่อสัตย์สุจริต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น