“พ่อ” เป็นคำที่ไม่มีคำบรรยายใดๆ แต่มันมีความหมายต่อจิตใจของฉัน ทุกครั้งที่เศร้า เหงา มีปัญหา หลายคนอาจจะปรึกษาเพื่อน ปรึกษาแม่ แต่สำหรับฉัน ฉันปรึกษาพ่อ พ่อเข้าใจฉันดีที่สุด ทุกครั้งที่มีปัญหา พ่อไม่ได้ให้ทางแก้ไข แต่พ่อจะพูดให้คิด แล้วทำให้ฉันเห็นทางแก้ไขนั้น พ่อบอกฉันเสมอว่า น้ำต้องค่อยๆ เติม ไม่ใช่เทลงไปไม่อย่างนั้นมันจะล้นได้ ก็เหมือนชีวิตเราที่ต้องค่อยๆเดินอย่างช้าๆ เดินอย่างระมัดระวัง ไม่เช่นนั้น อาจจะล้มได้ ณ วันนี้ ในชีวิตของฉันส่วนใหญ่นั้น มักจะผูกพันกับแม่เพราะแม่เลี้ยงดูฉันอย่างใกล้ชิด ส่วนพ่อจะมีหน้าที่ทำงานหาเงินมาเลี้ยงดูฉัน การใกล้ชิดอบรมสั่งสอนส่วนใหญ่นั้นแม่จึงมีมากกว่า พ่อทำงานหนักเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่สุขสบาย ไม่ได้มีคำสอนจากปากของพ่อบ่อยนักเหมือนที่เคยผ่านมาแต่การกระทำของพ่อนั้น เป็นสิ่งที่ดีกว่าคำสอนใดๆ ความขยัน อดทน เสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่สุขสบายเป็นสิ่งที่แทนคำสอนทั้งหมดได้ พ่อประหยัดมัธยัสถ์กับความสุขส่วนตัวเล็กๆ น้อยๆ ของใช้ส่วนตัวพ่อไม่เคยพิถีพิถัน แต่พ่อจะดูแลสุขภาพของตัวเองอยู่สม่ำเสมอ ตอนเช้าพ่อจะตื่นมาออกกำลังกาย เพราะพ่อรู้ว่าสุขภาพของพ่อสำคัญต่อครอบครัว หากพ่อไม่แข็งแรงก็จะไม่สามารถดูแลครอบครัวให้ดีได้ สิ่งต่างๆที่พ่อทำเป็นชีวิตประจำวัน ไม่ได้เป็นผลงานยิ่งใหญ่ สร้างชื่อเสียง หรือเป็นที่รู้จัก แต่ฉันก็ภูมิใจที่พ่อทำทุกอย่างด้วยความรัก และพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ฉันเติบโตมาด้วยสองมือที่แม้จะหยาบกร้าน และมอมแมมด้วยงานหนัก แต่ก็สะอาดปราศจากมลทินของอบายมุขใดๆ เพราะพ่อเลี้ยงดูฉันจนเติบโตมาได้ขนาดนี้ ต้องแลกกับหยาดเหงื่อแรงกายแรงใจ ที่พ่อทุ่มเทด้วยความมานะซื่อสัตย์สุจริต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น